หม้อต้มกาแฟ แบบ Moka Pot และ ปัจจุบันการชงแบบนี้ก็นิยมมากไปทั่วโลก ในประเทศไทยก็ด้วยเช่นกัน มีร้านกาแฟที่ใช้ มอคค่าพอท Moka pot อยู่หลายร้าน และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับ คนที่ชอบดื่มกาแฟสด แบบ Espresso เพราะรสชาติจะใกล้เคียงกับ ใช้เครื่องชงแบบ Espresso Machine ชง
โดยหลักการชง คือ ใช้น้ำร้อนจากการต้ม ให้เกิดมีแรงดันดันไอน้ำไหลขึ้นไปตามท่อ ผ่านไปที่ตะแกรงกรองที่มีผงกาแฟ และไหลออกไปตามท่อมีรูทางน้ำไหลออก ไปที่ตัวกาส่วนบน แล้วคุณก็จะได้น้ำกาแฟที่สามารถนำไปทำเมนู กาแฟร้อน หรือ เย็น เช่น ล้าเต้,คาปูชิโน, ม็อคค่า
วัสดุที่นิยมนำมาผลิต MOKA POT มีอยู่ 2 ชนิด คือ อลูมิเนียม และ สแตนเลส ข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
สแตนเลส : แข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิมง่าย
เนื่องจากสเตนเลสแตกต่างจากอะลูมิเนียมตรงที่ไม่มีรูพรุน จึงทำความสะอาดง่าย ไม่เกิดการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม และมีความทนทานอย่างมาก จึงทำให้ Moka Pot ที่ทำจากสเตนเลส มีราคาที่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม หม้อต้มกาแฟที่ผลิตจากสเตนเลสนั้นจะนำความร้อนได้น้อย และมีน้ำหนักเยอะกว่าแบบอะลูมิเนียม จึงอาจจะไม่สะดวกสำหรับการพกพา เหมาะสำหรับใช้งานภายในบ้านหรือในออฟฟิศมากกว่า
ใช้ได้กับเตา : เตาแก๊ส, เตาไฟฟ้า, เตาถ่าน, เตาอินฟาเรด, เตาแก๊สกระป๋อง
อลูมิเนียม : นำความร้อนได้ดี น้ำหนักเบา
Moka Pot ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะนิยมใช้อะลูมิเนียมคุณภาพดี เพราะถือเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นดี และราคาไม่แพง อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา สามารถพกพาได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้งานที่บ้าน หรือพกพาไปใช้งานระหว่างการเดินทาง เหมาะผู้คนที่ชอบ ไปเดินป่า ปั่นจักรยาน ขับมอเตอร์ไซค์ หรือขับรถไปตั้งแค้มป์นอกบ้าน ก็สะดวก และที่สำคัญ Moka Pot ที่ทำจากอะลูมิเนียมนั้นยังนำความร้อนได้ดีอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อะลูมิเนียมก็ยังมีข้อเสีย เนื่องจากเป็นโลหะที่มีรูพรุนเล็ก ๆ แฝงอยู่ หากคุณทำความสะอาดไม่ดีก็จะทำให้เศษกาแฟ และน้ำมันเข้าไปติดจนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้
ใช้ได้กับเตา : เตาแก๊ส, เตาไฟฟ้า, เตาถ่าน
มอคค่าพอท MOKA POT
อุปกรณ์ชงกาแฟด้วยกาแฟมอคค่าพอท
1. กาต้มกาแฟมอคค่าพอท
2. กระดาษกรอง สำหรับมอคค่าพอท
3. ช้อนตวง (สำหรับไว้ตวงปริมาณกาแฟตามสูตรของท่าน)
4. เมล็ดกาแฟคั่วบด/ ไม่บด
5. เครื่องบดกาแฟ มือหมุน
6. เตาต้มกาแฟ (หากมีเตาที่บ้านก็เลือกกาต้มที่เป็นวัสดุที่ต้มกับเตาที่บ้านได้ค่ะ)
7. นาฬิกาจับเวลา (ใช้โทรศัพท์ในการจับเวลาได้)
วิธีการชงกาแฟ ด้วย Moka Pot
ข้อแนะนำ
– อัตราส่วนของน้ำและกาแฟ ประมาณ 200 กรัมต่อลิตร แค่เติมกาแฟบดลงไปในช่องใส่กาแฟ และเติมน้ำลงไปใน เครื่องชงกาแฟ จนถึงที่ระดับต่ำกว่าวาล์ว ลดความดันเล็กน้อย เพื่อให้กาแฟมีพื้นที่ขยับได้บ้าง
– ระดับการบด ให้บดละเอียดเหมือนเกลือ แต่ไม่ละเอียดมากจนเกินไป เพราะมันจะส่งผลถึงรสชาติที่มีรสขมมากอีกด้วย
1. เตรียมกาแฟ ที่ทำการบดผ่านตะแกรงแล้ว และใส่กาแฟก่อนที่จะชง โดยเกลี่ยให้กาแฟบดอยู่ในระดับเดียวกัน แต่อย่าเพิ่งกดกาแฟ
2. ต้มน้ำสะอาดให้ร้อน เหมาะสมกับการชงกาแฟ ซึ่งข้อดีของการใช้น้ำร้อนในการชงคือ ช่วยให้ระยะเวลาที่ กาชงกาแฟ ตั้งอยู่บนเตาสั้นลง และยังทำให้ความขมลดลงอีกด้วย
3. เติมน้ำร้อนลงในส่วนล่างของ หม้อต้มกาแฟ จนถึงระดับต่ำกว่าวาล์วเล็กน้อย และเพื่อไม่ให้เกิดแรงดันที่มากเกินไปต้องไม่เติมน้ำเกินระดับวาล์ว
4. ประกอบ Moka Pot เข้าด้วยกัน เช็คดูประเก็นยางด้วย ว่าแน่นพอหรือไม่ เพื่อป้องการการทำงานของ Moka pot ที่ขัดข้องจากนั้นใส่ตะแกรงกาแฟลงไปใน Moka Pot
5. เปิดเตาโดยใช้ไฟอ่อน หรือ ไฟกลาง แล้วตั้งหม้อ Moka Pot ลงบนเตา ทำการเปิดฝาทิ้งไว้ เมื่อน้ำในช่องด้านล่างเริ่มเดือด ยิ่งเราต้มเร็วและร้อนเท่าไหร่ ความดันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น การชงก็จะรวดเร็วขึ้น และ ความดันจากไอน้ำ จะดำน้ำผ่านท่อที่ส่งไปยังตะแกรงกาแฟ
6. เมื่อถึงจุดเดือดระดับหนึ่ง กาแฟจะเริ่มไหลออกมา ที่ช่องด้านบน ต้องฟังเสียงเหมือนเครื่องหยุดทำงาน คุณถึงจะปิดเตาและหยุดชง เพราะหากทิ้งไว้นานกว่านั้น กาแฟจะมีรสขมจัดเกินไปได้
7. หลังจากนั้น ให้เปิดน้ำเย็นไหลผ่านฐาน ของ หม้อต้มกาแฟ เพื่อให้อุณหภูมิแรงดันลดลง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ก็รินใส่แก้วกาแฟ และดื่มกาแฟสไตล์อิตาลีนี้ ให้อร่อยสุดๆไปเลย