ทำไมต้องใช้ตาชั่งในการชงกาแฟ
ตาชั่งกาแฟ (Coffee Scale) เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญของคนที่ชอบการชงกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นบาริสต้าในร้าน หรือคอกาแฟที่บ้าน หลายคนอาจมองว่าการกะปริมาณด้วยตาเปล่าก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงแล้ว “น้ำหนัก” คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้กาแฟออกมามีรสชาติที่สมดุลและคงที่
ทำไมต้องใช้ตาชั่งกาแฟ?
1. ควบคุมรสชาติให้คงที่
- การชงกาแฟแต่ละครั้ง หากใส่ผงกาแฟมากหรือน้อยเกินไป จะทำให้รสชาติเปลี่ยนทันที ตาชั่งช่วยให้คุณวัดปริมาณได้แม่นยำทุกครั้ง
2. เหมาะสำหรับการทดลองสูตร
- ใครที่ชอบลองชงกาแฟหลาย ๆ แบบ เช่น Pour Over, Espresso หรือ Cold Brew การมีตัวเลขน้ำหนักที่แน่นอน จะช่วยให้คุณบันทึกและปรับสูตรได้ง่ายขึ้น
3. ใช้งานง่ายและสะดวก
- ตาชั่งกาแฟรุ่นใหม่ ๆ มักจะมีฟังก์ชันเสริม เช่น ตั้งเวลา (Timer) สำหรับจับเวลาการสกัด หรือปุ่มลัดรีเซ็ต (Tare) ที่ทำให้การชั่งเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ตาชั่งกาแฟมีกี่แบบ?
1. ตาชั่งดิจิทัลทั่วไป
- เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ราคาย่อมเยา ขนาดกะทัดรัด ใช้ได้ทั้งชั่งเมล็ดกาแฟ ผงกาแฟ และน้ำ
2. ตาชั่งดิจิทัลพร้อม Timer
- ตัวนี้เหมาะกับสาย Pour Over และดริปกาแฟ เพราะสามารถชั่งไปพร้อมกับจับเวลาได้ในเครื่องเดียว
3. ตาชั่งบาริสต้ามืออาชีพ
- มีความละเอียดสูง วัดได้แม่นยำระดับ 0.1 กรัม ดีไซน์ทนทาน บางรุ่นเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้ เพื่อบันทึกสูตรการชง
4. ตาชั่งมัลติฟังก์ชัน
- ใช้ได้ทั้งครัวและกาแฟ มีฟังก์ชันเสริม เช่น การวัดอุณหภูมิ หรือการเชื่อมต่อบลูทูธ
สรุป
ตาชั่งกาแฟถือว่าเป็น “เพื่อนคู่ใจ” ของคนรักกาแฟที่อยากได้รสชาติที่เสถียรและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มดริปกาแฟ หรือบาริสต้ามืออาชีพ การเลือกตาชั่งที่เหมาะกับการใช้งานจะช่วยยกระดับการชงกาแฟให้สนุกและได้รสชาติที่ถูกใจมากขึ้น