สวัสดีทุกท่าน Koffeemart มีทริค! 6 อย่างที่เป็นเคล็ดลับ มาฝากคาเฟ่ และทุกท่านที่รักการชงกาแฟ และเครื่องดื่ม ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะว่ามีทริคอะไรบ้าง
![]() |
|
1. นมข้นจืดช่วยเพิ่มความหอมมันกลมกล่อม
คาเฟ่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับรสชาติและกลิ่นของนมเมื่อนำไปผสมกับเครื่องดื่มบางร้านเลือกใช้นมพาสเจอร์ไรส์
และบางร้านเลือกใช้นมข้นจืดในการชงเครื่องดื่มขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน ซึ่งในการนำนมข้นจืดมาชงเครื่องดื่ม
จะช่วยทำให้รสชาติของชา-กาแฟ และส่วนผสมอื่นๆในเครื่องดื่มเข้ากันได้อย่างลงตัวพอดี ในนมข้นจืดจะมีความมันเนย
หรือไขมันนมที่มากกว่า จึงช่วยเพิ่มความมันนม ช่วยลดความฝาดของชา-กาแฟ ได้รสชาติที่เข้มข้น อร่อย กลมกล่อม
เหมาะกับกาแฟคั่วเข้ม กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า และกาแฟโบราณ
|
![]() |
|
2. อุณหภูมิที่เหมาะสมของน้ำในการชงเครื่องดื่มช่วยให้ได้รสชาติที่พอดี
น้ำเป็นส่วนผสมของการชงเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้ ซึ่งน้ำกรองเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
เพราะมีแร่ธาตุ เป็นตัวพาสารต่างๆ ออกมา รวมถึงอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ในการชงเช่นกัน
การชงกาแฟสดหรือกาแฟโบราณ ควรใช้น้ำที่อุณหภูมิ 91-96 องศาเซลเซียสในการชง
หากใช้น้ำที่อุณหภูมิตั้งแต่ 100 องศาเซลเซียสขึ้นไปในการชง จะทำให้กาแฟขมเกินไป
แต่ถ้าต่ำกว่า 91 องศาเซลเซียส จะทำให้การสกัดกาแฟ ได้รสชาติที่อ่อนเกินไป
การชงชา ควรปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับชนิดของใบชา อาทิ ชาดำ ชาอูหลง ชาผลไม้และชาสมุนไพร
ควรใช้น้ำที่อุณหภูมิ 70-80 องศาเซลเซียสในการชง จะได้กลิ่นหอมละมุนจากใบชาแบบพอดี
ส่วนชาเขียวหรือชาขาว ควรใช้น้ำที่อุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียสในการชง ความร้อนระดับนี้
จะช่วยให้ใบชาค่อยๆ ขับสารแทนนินจนได้รสฝาดตามต้องการ ซึ่งการชงด้วยวิธีนี้เน้นรสชาติ ไม่เน้นกลิ่นหอม
|
![]() |
|
3. สตรีมนมให้ได้ฟองเนียนนุ่มและอยู่ตัวนาน
การสตรีมนม คือการส่งไอน้ำร้อนจากเครื่องชงเข้าไปตีน้ำนมจนเกิดเป็นฟอง โดยเตรียมนมที่มีอุณหภูมิเย็นจัด
ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส ใส่ในพิชเชอร์ ก่อนสตรีมทุกครั้งควรไล่น้ำที่ค้างอยู่ในก้านสตรีมออกก่อน
จากนั้นจุ่มก้านสตรีมลงในพิชเชอร์ ทำการสตรีมจนได้ความร้อนที่อุณหภูมิ 65-70 องศาเซลเซียส
และเคาะพิชเชอร์เพื่อไล่ฟองอากาศอีกเล็กน้อย จะได้ฟองนมที่แน่นและเนียนนุ่ม เพื่อนำมาตกแต่งเครื่องดื่ม
ซึ่งการเลือกชนิดของนมก็สำคัญ ควรเลือกใช้นมสูตรไขมันปกติ หรือนมที่เหมาะสำหรับตีฟองโดยเฉพาะ
เพราะจะช่วยให้ตีฟองง่าย ฟองนมเนียนนุ่มและอยู่ตัวนานขึ้น
|
![]() |
|
4. ทำตามสูตรใส่ใจทุกขั้นตอนเพื่อควบคุมคุณภาพของรสชาติ
นอกจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีแล้ว การควบคุมคุณภาพของรสชาติก็เป็นสิ่งสำคัญ บาริสต้าต้องใส่ใจรายละเอียด
ทุกขั้นตอนทำตามสูตรที่กำหนด เพราะปริมาณหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงมีผลทำให้รสชาติไม่คงที
รวมถึงอุปกรณ์ในการชงเครื่องดื่มทุกอย่างต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
|
![]() |
|
5. สร้างเมนูสุดเริ่ดเพื่อดึงดูดลูกค้า
นอกจากบรรยากาศร้านที่ควรจัดตกแต่งให้มีความโปร่งโล่ง สบายตาแล้วการสร้างเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ
ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยสร้างความแตกต่างและเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคโดยสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติม
รวมถึงสูตรสุดเริ่ดได้ที่ www.koffeemart.com
|
![]() |
|
6. เทคนิคถ่ายรูปสุดปังให้เมนูน่ารับประทาน
ถ้าเมนูนั้นใส่มาในจานแบน อาจถ่ายด้านข้างหรือเฉียง 45 องศา เพื่อให้อาหารดูนูนน่ารับประทาน
หรือสามารถถ่ายมุมสูงหรือมุมท็อป โดยการยกกล้องขึ้นเหนืออาหาร เพื่อให้เห็นองค์ประกอบของอาหารทั้งหมด
รวมถึงโต๊ะและอุปกรณ์ตกแต่ง หากเป็นเมนูเบเกอรี่หรือเครื่องดื่ม อาจเลือกเป็นมุมต่ำกว่าระดับสายตา
ทำให้อาหารดูมีมิติ อาทิ ถ้าเครื่องดื่มเสิร์ฟอยู่ในแก้วใส ควรถ่ายให้เห็นส่วนประกอบของเครื่องดื่มในแต่ละชั้น
เพื่อให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น
|
เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ : 08:30 น.- 17:30 น. เสาร์ : 08:30 น.- 15:30 น.